เลิกเงียบ! โอซิลร่างจดหมายแจงปมร้อนพบผู้นำตุรกี
ฮัซวานี 2018-07-22 20:38:03 评论
จอมทัพทีมชาติเยอรมันออกโรงชี้แจงประเด็นที่เข้าพบกับผู้นำตุรกีแล้ว หลังก่อนหน้านี้เลือกที่จะปิดปากเงียบมาตลอด
เมซุส โอซิล กองกลางทีมชาติเยอรมัน ร่ายยาวชี้แจงการเข้าพบ ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ที่กลายเป็นประเด็นร้อนตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลก 2018
จอมทัพอาร์เซนอล และ อิลคาย กุนโดกัน สองผู้เล่นทีมอินทรีเหล็ก ถูกสื่อในประเทศรุมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังทั้งคู่ไปเข้าพบผู้นำของตุรุกีก่อนจะช่วยทีมชาติทำศึกเวิลด์คัพที่รัสเซีย
โดยในรายของห้องเครื่องแมนฯซิตี้เลือกที่จะออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทันที แต่ในรายของโอซิลเลือกที่จะปิดปากเงียบเอาไว้ ร้อนถึงสหพันธ์ลูกหนังเยอรมันต้องออกมาเร่งเร้าให้เขาออกมาให้ความกระจ่าง
ล่าสุดอดีตแข้ง เรอัล มาดริด เขียนจดหมายชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมยืนยันว่ามันไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการเมืองเลย มันเป็นแค่การแสดงความเคารพต่อประเทศเกิดของครอบครัวเท่านั้น
"ผมมีเวลาคิดทบทวนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเวลาคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด 2 เดือนมานี้ ตอนนี้ผมอยากแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกถึงเรื่องนี้" ใจความในจดหมายของโอซิล
"เหมือนกับอีกหลายคน บรรพบุรุษของผมมาจากที่ตั้งมากกว่า 1 ประเทศ ในขณะที่ผมโตขึ้นที่เยอรมัน ครอบครัวของผมมีรกรากมาจากตุรกี"
"ผมมีหัวใจ 2 ดวง เยอรมัน 1 ดวง และ ตุรกี 1 ดวง แม่สอนผมตั้งแต่เด็กว่าต้องเคารพและอย่าลืมโดยเด็ดขาดว่าผมมาจากที่ไหน มันยังเป็นคำสอนที่ผมนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้"
OPTA พรีเมียร์ลีก | สถิติผู้เล่น | สถิติทีม
"ในเดือนพฤษภาคม ผมเข้าพบกับประธานาธิบดีเออร์โดกันในระหว่างงานการกุศล เราเจอกันครั้งแรกเมื่อปี 2010 ตอนนั้น เขากับ อังเจลา แมร์เคิล มาชมเกมระหว่าง เยอรมัน พบ ตุรกี ด้วยกันในเบอร์ลิน"
"ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เราเจอกันหลายครั้งระหว่างเดินทางไปรอบโลก ผมรู้ดีว่าภาพของเรากลายเป็นประเด็นใหญ่ของสื่อเยอรมัน ในขณะที่บางคนกล่าวหาผมว่าหลอกลวงและไม่จริงใจ แต่ภาพที่เราถ่ายด้วยกันนั้นไม่ได้มีเจตนาทางการเมืองแอบแฝงเลย"
"อย่างที่ผมบอก แม่ของผมไม่เคยยอมปล่อยให้ผมลืมบรรพบุรุษ มรดกที่สืบทอดกันมา และประเพณีของครอบครัว สำหรับผมแล้ว การถ่ายภาพกับประธานาธิบดีเออร์โดกันไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรือการเลือกตั้ง มันคือการที่ผมแสดงความเคารพต่อองค์กรปกครองสูงสุดของประเทศบ้านเกิดของครอบครัวเท่านั้น"
"งานของผมคือนักฟุตบอล ไม่ใช่นักการเมือง และการพบกันของเราไม่ได้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เราคุยกันเรื่องเดิม ๆ เหมือนที่เราเจอกันทุกครั้ง นั่นคือฟุตบอล เพราะเขาเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน"
"แม้ว่าสื่อเยอรมันจะพยายามถ่ายทอดภาพนั้นออกมาอีกอย่าง แต่ความจริงคือการไม่เข้าพบกับประธานาธิบดี มันคือการแสดงความไม่เคารพต่อรากเหง้าบรรพบุรุษของผม ซึ่งนั่นคือความภาคภูมิใจของผมในวันนี้"
"สำหรับผมแล้ว มันไม่สำคัญว่าใครจะเป็นประธานาธิบดี มันสำคัญที่นั่นคือประธานาธิบดี ด้วยความเคารพต่อสถาบันทางการเมืองนะ ผมมั่นใจว่าพระราชินีและนายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ คงแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการเมืองกับเออร์โดกันตอนต้อนรับเขาในลอนดอน แต่ไม่ว่านั่นจะเป็นประธานาธิบดีของตุรกี หรือ เยอรมัน ผมก็จะทำแบบเดิมอยู่ดี"
"ผมรู้ว่านี่มันเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ เพราะความเชื่อที่มีต่อผู้นำทางการเมืองส่วนใหญ่ไม่สามารถคิดเป็นเรื่องของบุคคลได้ แต่ในกรณีนี้มันแตกต่างออกไป ไม่ว่าผลการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ หรือ ครั้งก่อนหน้านั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ผมจะยังคงถ่ายภาพนั้นเช่นเดิม "
- 消息参考来源: GOAL_TH
- 严禁商业机构或公司转载,违者必究;球迷转载请注明来源“懂球帝”
- 懂球帝社区规范:抵制辱骂