懂球帝首页 > 新闻正文

โครเอเชีย: ชาติที่เพิ่งสร้าง ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งเขียน

ฮัซวานี 2018-07-17 17:58:02 评论

นี่คือทีมรองแชมป์ คือผู้แพ้ในนัดชิงชนะเลิศ แต่หัวใจฮึดสู้ของเขานั้นยึดกุมหัวใจผู้คนทั่วโลก

โครเอเชียประกาศเอกราชเป็นประเทศราชจากยูโกสลาเวียในปี 1991 นับถึงปัจจุบันได้ 27 ปี มีผู้เล่นทีมชาติโครเอเชียชุดฟุตบอลโลก 2018 ที่อายุมากกว่าประเทศตัวเองอยู่ 12 คน

ประเทศโครเอเชียเกิดขึ้นในความไม่ยินยอมของประเทศเดิม ต้องทำสงครามเพื่อประกาศอิสรภาพ ชีวิตล้มหายตายจากเป็นพันเป็นหมื่น ครอบครัวของบรรดาผู้เล่นเหล่านี้หาทางเอาตัวรอดจากสงครามมาได้ จนมีโอกาสเลี้ยงดูลูกชายให้เติบโตมาเป็นความภูมิใจของบ้านเมืองในเวลาต่อมา

ทีมชาติฝรั่งเศสมีผู้เล่นเชื้อสายอื่น ๆ ที่เติบโตมาจากครอบครัวผู้อพยพมากมาย แต่โครเอเชียนั้น พวกเขาเป็นผู้อพยพบนแผ่นดินของตัวเอง

ลูก้า ราคิติช และครอบครัว หนีสงครามมาตั้งรกรากในสวิตเซอร์แลนด์ อิวาน ลูกชายคนเล็กของเขาดูจะมีแววลูกหนังมากกว่าใคร เจ้าหนูได้เข้าสู่อะคาเดมีของเอฟซี บาเซิล และค่อย ๆ มีชื่อเสียงจากฝีเท้าที่เกินวัย ถูกเรียกตัวติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่รุ่น U-17, U-19 ไปถึง U-21 แต่เมื่อทีมชาติโครเอเชียชุดใหญ่เรียกตัว ราคิติชไม่ลังเลที่จะตอบรับ

“ผมโตมาในสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีโรเบิร์ต โปรซิเนซกี้ เป็นไอดอล เขาคือฮีโร่ของชาวโครเอเชีย” นั่นคือหนึ่งในเหตุผลของราคิติช บวกกับแรงกดดันทางการเมืองที่ผู้อพยพอย่างครอบครัวของเขาเริ่มไม่เป็นที่ต้อนรับในช่วงเวลานั้นด้วย

มาริโอ มานด์ซูคิช ก็เป็นอีกคนที่ครอบครัวตัดสินใจหนีออกมาอยู่ในเยอรมันก่อนสงครามจะปะทุรุนแรง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีหนีออกมาทันเวลา 

“ผมจำได้ดีเมื่อมีเสียงไซเรนดังขึ้น” เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังค่ายหงส์แดงเล่าถึงความหลังครั้งยังติดอยู่กลางสมรภูมิ “ผมกลัวมาก ๆ เพราะคิดว่าจะมีระเบิดลงหรืออะไรสักอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ

“ผมจำได้ว่าแม่พาผมไปที่หลุมหลบภัย ไม่รู้เลยว่าเรานั่งอยู่ในนั้นนานแค่ไหน ผมคิดว่าน่าจะจนไซเรนเงียบลง หลังจากนั้น ผมจำได้ว่าแม่ผม ลุงผม ภรรยาของลุง พวกเราขับรถมุ่งหน้าไปเยอรมัน”

หลังจากนั้นเด็กชายเดยันดำรงชีวิตในฐานะผู้อพยพ โตมาอย่างเด็กเยอรมันคนหนึ่งเป็นเวลาเจ็ดปี ก่อนจะถูกผลักดันกลับสู่โครเอเชียเนื่องจากมีเอกสารไม่ครบตามเกณฑ์ เขากลายเป็นคนนอกในแผ่นดินแม่เพราะไม่คุ้นเคยกับภาษาโครแอตที่ใช้ในโรงเรียน ต้องปรับตัวใหม่ไปอีกหลายปี กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางและได้เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังอาชีพกับดินาโม ซาเกรบ

แต่จะหาใครที่แบกรับบาดแผลจากสงครามไปมากกว่ากัปตันลูก้า โมดริช คงไม่มี จากที่ใช้ชีวิตอย่างสงบในหมู่บ้านตีนเขาเวเลบิท สงครามมาถึงตัวครอบครัวโมดริชรวดเร็วกว่าที่คิด ปู่ของเขาถูกกองกำลังกบฎเซิร์บสังหารพร้อมผู้เฒ่าในหมู่บ้านอีก 6 คน บ้านของเขาถูกเผาทำลาย เด็กชายลูก้าและครอบครัวต้องอาศัยอยู่ในโรงแรมในฐานะผู้อพยพถึง 7 ปี เจ้าหนูเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังในลานจอดรถของโรงแรมโคโลวาร์ เมื่อได้เข้าไปอยู่ในอะคาเดมีของเอ็นเค ซาร์ดาร์ โมดริชใช้สนับแข้งที่พ่อของเขาเหลาจากไม้ให้ด้วยตัวเอง เพราะไม่มีเงินซื้อ ช่วงเวลาเหล่านี้เองที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นกองกลางร่างเล็กที่หัวใจแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า

ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกของโครเอเชีย เกิดขึ้นในปี 1998 ดาวอร์ ซูเคอร์ และผองเพื่อน ไปไกลถึงการคว้าอันดับสามในปีนั้น ผู้เล่นในชุดนั้นหลายคนกลายเป็นดาวเด่นในลีกยุโรป แต่ทีมชาติตามหมากรุกไม่เคยไปได้ถึงความสำเร็จในระดับเดียวกันอีกเลย… จนกระทั่งปีนี้

พวกเขาถล่มอาร์เจนตินา 3-0 แบบคนละชั้น ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์อย่างคู่ตวร ในรอบนี้พวกเขาเล่นถึงช่วงต่อเวลาถึงสามนัดติดต่อกัน และสิ่งที่โลกได้เห็นทุกครั้งที่โครแอตลงสนาม คือความมุ่งมั่นไม่รู้จักหมดจักยอมจนวินาทีสุดท้าย

ถ้าพูดภาษามวย โครเอเชียเป็นนักมวยที่ ‘ยิ่งต่อยยิ่งตัวใหญ่’ ในขณะที่คู่แข่งค่อย ๆ อ่อนล้า นักเตะตราหมากรุกยังคงวิ่งไม่มีหมดแม้ต้องยืนหายใจหอบทันทีที่บอลตาย ร่างกายมนุษย์ต่างมีขีดจำกัด แต่พวกโครแอตแสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าถ้าใจยังไม่หมด ขาก็ยังไปได้

“เมื่อคุณได้ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศ เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะอ่อนล้า คุณรู้เดิมพันมันขนาดไหน” โมดริชกล่าวหลังยิงแซงอังกฤษในช่วงต่อเวลาพิเศษ ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศส หลังนาทีที่ 100 เขายังคงกระชากหนีคู่แข่งได้ แม้ต้องก้มงอตัวกุมเข่าหลังจากนั้นก็ตาม

พลังฮึดสู้ของพวกเขาไม่ได้ลดลงไปเลยแม้ในเกมที่ตกเป็นรองสุดกู่อย่างนัดชิงชนะเลิศกับตราไก่ มานด์ซูคิชพลาดท่าทำเข้าประตูตัวเองตั้งแต่ต้นครึ่งแรก แต่เพียง 10 นาที อิวาน เปริซิช ก็ยิงตีเสมอทันควัน โมเมนตัมทำท่าจะมาทางโครเอเชีย แต่เพียง 10 นาทีหลังจากนั้น เปริซิชคนเดิมถูกจับแฮนด์บอลในเขตโทษแม้ไม่เจตนา อองตัว กรีซมันน์ ยิงจุดโทษไม่เหลือ จบครึ่งแรกแบบโชคร้ายสุดขีด

ครึ่งหลังพวกเขาพยายามเร่งเครื่อง แต่กลับเสียสองประตูรวดจากความยอดเยี่ยมของพอล ป็อกบา และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สกอร์ที่ตามหลังสุดกู่ 4-1 แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะกลับมา

แต่ความมุ่งมั่นของมานด์ซูคิชก็กดดันจนผู้รักษาประตูระดับทีมชาติฝรั่งเศสเกินร้อยนัดอย่างอูโก้ โญริส ออกบอลพลาดจนเขาฉกไปยิงได้ สกอร์ขยับเป็น 4-2 และโครเอเชียฮึดสู้ถวายชีวิต แม้สุดท้ายจะไม่มีประตูเพิ่มก็ตาม

ในฟุตบอล ไม่มีคะแนนสวยงาม ไม่มีคะแนนความประทับใจ ทุกอย่างตัดสินที่ผลการแข่งขัน ผู้ชนะจะอย่างไรก็เป็นผู้ชนะ ผู้แพ้จะอย่างไรก็เป็นผู้แพ้

แต่ถึงอย่างนั้น เราก็อยากจะบอกกับทีมชาติโครเอเชียอยู่ดี ว่าพวกเขาสู้ได้ดีแล้ว สู้ได้ดีเหลือเกิน และหัวใจฮึดสู้ของพวกเขาจะถูกจดจำไปแสนนาน

分享到:

我要评论

全部评论(0)

正在加载...

非常抱歉!