ตัดเชือกสิงโต! โครเอเชียดวลโทษคว่ำรัสเซีย 4-3 (2-2)

ทัพตราหมากรุกผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้สำเร็จหลังดวลจุดโทษเอาชนะเจ้าภาพรัสเซียไปได้ 4-3 เข้ารอบตัดเชือกพบอังกฤษ

เกมฟุตบอลโลก 2018 รอบก่อนรองชนะเลิศเจ้าภาพรัสเซียมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย อิกอร์ อคินเฟเยฟ, มาริโอ แฟร์นันเดส, อิลยา คูเตปอฟ, เซอร์เกย์ อินาเชวิช, เฟดอร์ คูดรายาชอฟ, เดเลอร์ คูซาเยฟ, โรมัน ซอบนิน, อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เดนิส เชอรีเชฟ และ อาร์เต็ม ซูบา

ทางฝั่งโครเอเชียมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน ประกอบด้วย ดานิเยล ซูบาซิช, ซิเม เวอร์ซัลโก, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วิด้า, อิวาน สตรินิช, อิวาน ราคิติช, ลูกา โมดริช, อันเต เรบิช, อังเดร ครามาริช, อิวาน เปริซิช และ มาริโอ มานด์ซูคิช

เจ้าภาพได้ประตูขึ้นนำในนาที 31 เดนิส เชอรีเชฟ ได้ครองบอลกลางสนามก่อนทำชิ่งกับ อาร์เต็ม ซูบา แล้วปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบเสาแรกสุดสวย รัสเซียขึ้นนำ 1-0

โครเอเชียได้ประตูตีเสมอในนาที 39 จากจังหวะเสียบอลกลางทางแล้ว มาริโอ มานด์ซูคิช ได้บอลหลุดมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลให้ อังเดร ครามาริช โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย โครเอเชียตีเสมอ 1-1

ข่าวอื่นๆ | ติดตามข่าว ฟุตบอลโลกเพิ่มเติมที่นี่OPTA - สถิติผู้เล่น | สถิติทีมเปิดโผรายชื่อนักเตะ 32 ชาติลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายลูกฟุตบอลเวิลด์คัพ : จากแทงโก้สู่จาบูลานีWorld Cup 2018 Stadiums: ส่อง 12 สนามฟุตบอลโลกที่รัสเซียSTAY TUNED WORLD CUP : ตารางถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018

ครึ่งหลังโครเอเชียแก้เกมมาได้ดีกว่าและได้บุกตั้งแต่ต้นครึ่งหลังก่อนมีโอกาสลุ้นประตูในนาที 51 จากลูกจักรยานอากาศของ อังเดร ครามาริช แต่บอลไปตรงตัว อิกอร์ อคินเฟเยฟ

โครเอเชียพลาดได้ประตูขึ้นนำในนาที 58 จากจังหวะที่ อิวาน เปริซิช เก็บบอลสกัดของ อิกอร์ อคินเฟเยฟ หน้าปากประตูก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งมาชนเสาไกลก่อนเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

รัสเซียได้ลุ้นบ้างในนาที 61 จากลูกเตะมุมเปิดเข้ามา อาร์เต็ม ซูบา ได้โหม่งเหน่ง ๆแต่บอลไปตรงตัว ดานิเยล ซูบาซิช

จบเกม 90 นาทีทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษเพิ่มออกไปอีก 30 นาที

ช่วงท้ายเกมโครเอเชียได้รับข่าวร้ายเมื่อ ดานิเยล ซูบาซิช มีอาการบาดเจ็บต้นขาซ้ายจากจังหวะก้มตัวรับบอลแต่หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำให้เจ้าตัวกลับมาเล่นต่อได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

โครเอเชียมาได้ประตูขึ้นนำในนาที 100 จากลูกเตะมุมเปิดเข้ามาให้ โดมากอย วิด้า โขกบอลกดลงพื้นเสียบเสาเข้าประตูไป โครเอเชียนำ 2-1

นาที 111 รัสเซียเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เดเลอร์ คูซาเยฟ ได้ยิงจากสองจากบอลสกัดจากลูกเตะมุมบอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัวของ ดานิเยล ซูบาซิช

เจ้าภาพได้ประตูตูเสมอในนาที 115 จากลูกฟรีคิก อลัน ซาโกเยฟ ตัวสำรองเปิดบอลให้ มาริโอ แฟร์นันเดส ได้ขึ้นโขกเหน่ง ๆเสียบเสาสองเข้าประตูไป รัสเซียตีเสมอ 2-2

จบ 120 นาทีทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 ทำให้ต้องมีการดวลจุดโทษตัดสิน

และเป็นโครเอเชียดวลจุดโทษเอาชนะรัสเซียไปได้ หลัง ฟีดอร์ สโมลอฟและมาริโอ แฟร์นันเดส มือสังหารคนแรกและคนที่สามของรัสเซียยิงไม่เข้า ขณะที่ มาเตโอ โควาซิช คนที่สองของโครเอเชียยิงไม่เข้า ทำให้โครเอเชียเอาชนะไปได้ 4-3 และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบอังกฤษ